2552-02-19


จัดทำโดย น.ส. ศิริวรรณ เกิดลำเจียก 5005106020

(เพิ่มเติม) ผู้ว่าธปท. คาดปี 52 GDP อาจโตไม่ถึง 0-2% ตามที่ประมาณการไว้
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 4 ชั่วโมง 54 นาทีที่แล้ว
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)คาดว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย(GDP)ในปี 52 อาจเติบโตไม่ถึง 0-2% ตามที่ประมาณการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดย ธปท.จะมีการทบทวนประมาณการใหม่ในช่วงปลายเดือนนี้
"GDP ที่ประมาณการครั้งก่อน ค่ากลางโต 1% ตอนนี้ไม่มั่นใจแล้วว่าจะได้ตามนี้ มีโอกาสปรับลดลง เพราะว่าภาวะเศรษฐกิจไม่นิ่งทั้งไทยและเศรษฐกิจโลก จึงต้องมีการรอัพเดตข้อมูลบ่อยๆ ดังนั้นจะมีการทบทวนข้อมูล GDP ในปลายเดือนนี้" นางธาริษา กล่าวในงานสัมมนา"วิกฤตเศรษฐกิจโลกกับทางออกของคนไทย" สำหรับภาคธุรกิจตอนนี้ไม่ได้มีความเปราะบางดูได้จากยังมีผลกำไรจากการดำเนินงาน และหนี้สินต่อทุนยังต่ำอยู่ที่ 0.8-0.9% ต่ำกว่าปี 40 ที่อยู่ที่ 2% ขณะที่ภาคสถาบันการเงินยังมีความแข็งแกร่ง โดยกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS) อยู่ที่เฉลี่ย 14-15% ธปท.ไม่มีความกังวลเพราะยังสามารถปล่อยกู้เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจอยู่ เนื่องจากสภาพคล่องส่วนเกินสูงมาก ขณะที่ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลคาดว่าจะเห็นผลในครึ่งปีหลังและเศรษฐกิจโลกจะฟื้นในครึ่งปีหลังด้วย ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า ภาพรวมที่ธปท.ดู คือ เรื่องของนโยบายการเงินซึ่งได้ผ่อนคลายมามากแล้ว และนโยบายการเงินการคลังในขณะนี้ยังมี Room ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีก แต่ขณะนี้ธปท.อยู่ระหว่างการเตรียมทบทวนคาดการณ์เศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขทางเศรษฐกิจบางตัวเปลี่ยนแปลงหลายครั้งและรวดเร็วมาก โดยเฉพาะการส่งออกของไทยที่ชะลอตัวมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน แต่ก็เป็นไปตามภาวะที่คาดไว้แล้วว่าจะเกิดขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็ยังไม่นิ่ง และเพียงระยะเวลาแค่เดือนเดียวอัตราการขยายตัว(จีดีพี)ของโลกลดลงไปถึง 1% และหากเศรษฐกิจโลกยังไม่นิ่งก็จะทำให้การส่งออกลดลงอีก และเรื่องของค่าเงินบาท ที่ไม่ให้ผันผวนมาก โดยค่าเงินบาทในปัจจุบันยังอยู่ระดับกลางเทียบภูมิภาค เช่น เกาหลี อินโดนีเซีย ที่อ่อนค่า 20% และจีนที่แข็งค่า โดยหากดูดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริง ค่าเงินบาทได้กลับมาใกล้เคียงระดับต้นปี 50 แม้ว่าระหว่างทางจะแข็งค่าขึ้นไปบ้าง โดยเฉลี่ยปี 51 ค่าบาทอ่อนค่า 3% และไม่ว่าค่าเงินจะเป็นอย่างไร แต่ว่าเงินเฟ้อที่ลดลงทำให้ต้นทุนถูกลง ดังนั้นไทยยังมีความสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ดี ธปท.พร้อมดูแลค่าเงินบาทถ้ามีความผันผวน พร้อมระบุว่า หากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าขยายตัวลดลง 1% จะทำให้การส่งออกที่แท้จริงลดลง 1.6% แต่ถ้าบาทอ่อนไป 1% จะทำให้ Real Export ขยายตัว 0.2% "ค่าเงินบาท ณวันที่ 2 ก.พ. อ่อนค่า 0.7% คาดว่าปีนี้ทั้งปีเงินบาทยังอ่อนค่าอยู่ เพราะดอลลาร์แข็งค่า ช่วงนี้บาทอ่อนจากสัปดาห์ก่อน" ผู้ว่าการธปท. ระบุ

คำถาม

1.นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าในปี 52 อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจไทยเติบโตได้กี่%

2.หนี้สินต่อทุนในปี 52 อยู่ทื่กี่% และต่ำกว่าปี 40 กี่%

3.ค่าเงินบาทในปัจจุบันยังอยู่ระดับกลางเทียบภูมิภาคในประเทศใด
จัดทำโดย น.ส. ศิริวรรณ เกิดลำเจียก 5005106020

เงินบาทปิดตลาด 35.52/54 อ่อนค่าต่อเนื่องหลังนักลงทุนหันถือดอลลาร์
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- 3 ชั่วโมง 35 นาทีที่แล้ว
นักบริหารเงิน ธนาคารไทยธนาคาร เปิดเผยว่า เงินบาทวันนี้ยังอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 35.52/54 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.38/40 บาท/ดอลลาร์ เป็นการอ่อนค่าลงตามภูมิภาคหลังจากดอลลาร์แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง จากตลาดมองว่ารัฐบาลสหรัฐได้วางแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้เร็ว ทำให้นักลงทุนหันมาถือครองดอลลาร์มากขึ้น
-->
-->
window.google_render_ad();
นอกจากนั้น เงินบาทที่อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ทำให้ผู้นำเข้าไล่ซื้อดอลลาร์เก็บ ขณะที่ผู้ส่งออกยังไม่เทขายออกมา ทั้งนี้ยังมองว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าได้อีก โดยมีแนวต้านที่ 35.80 บาท/ดอลลาร์ ส่วนค่าเงินสกุลต่างประเทศ เงินเยนอยุ่ที่ 93.51/53 เยน/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเช้าที่อยู่ระดับ 93.82 เยน/ดอลลาร์ เงินยูโร อยู่ที่ 1.2656/57 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 1.2573/2577 ดอลลาร์/ยูโร

คำถาม

1.เงินบาทปิดตลาดที่ระดับเท่าไหร่

2.ทำไมนักลงทุนจึงหันมาถือครองดอลลาร์มากขึ้น

3.เงินสกุลใดอ่อนค่าลงบ้าง